วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จังหวัดตรัง

เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างรสเลิศ ถิ่นกำเนิดยางพารา เด่นสง่าดอกสีตรัง ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม น้ำตกสวยตระการตา

      สำหรับผู้ที่หลงใหลบรรยากาศของหาดทราย ชายทะเล กลุ่มเกาะ และอาหารอร่อยแล้ว ไม่มีใครไม่คิดถึงตรัง หรือเมืองทับเที่ยง เมืองท่าค้าขายที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต และเติบโตต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน โดยสั่งสมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ตกทอดไว้ในแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีและอย่างที่รู้กันว่า ตรังเป็นดินแดนแรกที่มีการนำต้นยางพารามาปลูก ทุกวันนี้ ยางพาราคือพืชเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ ทำรายได้เลี้ยงชีพผู้คนมาอย่างยั่งยืน ไม่เพียงเท่านั้น ความอุดมสมบูรณ์ของตรังยังรวมถึงผืนป่า แหล่งน้ำ และถ้ำน้อยใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าหาดทราย ชายทะเล และหมู่เกาะเลยการไปเยือนจังหวัดตรังจึงนับว่าได้ท่องเที่ยวครบทุกรสชาติ ทั้งดินแดนประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ธรรมชาติ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเหมาะสมและพอเพียงในแต่ละที่ที่คุณไป

     จังหวัดตรังมีเนื้อที่ประมาณ 4,941 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเล็กเนินน้อยสลับกับที่ราบ ทำให้สันนิษฐานกันว่าชื่อตรัง มาจากคำว่า “ตรังคะ” ในภาษาบาลี ซึ่งแปลว่าลูกคลื่น ตามสภาพพื้นที่ของจังหวัดตรัง ขณะที่อีกข้อสันนิษฐานหนึ่งบอกว่า ตรังมาจาก “ตรังเค” ภาษามลายู แปลว่า “รุ่งอรุณ” หรือ “สว่างแล้ว” เพราะสมัยก่อน เรือสินค้าจากมลายูจะแล่นมาถึงตรังตอนสว่างพอดีความเป็นมาของเมืองตรังนั้นเริ่มต้นในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยพบหลักฐานคือจารึกวัดเสมาเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งบอกไว้ว่า ตรังเป็นหัวเมืองที่ขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช และหลักฐานอื่นๆ ที่พบในเวลาต่อมา ทำให้สามารถแบ่งยุคสมัยของวิวัฒนาการเมืองตรังได้เป็น 3 ช่วง คือ1. สมัยตั้งเมืองที่ตำบลควนธานี (พ.ศ. 2354-2436) ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พบหลักฐานจากทำเนียบกรมการเมืองตรังว่า พระอุไภยธานี ผู้ว่าราชการเมืองตรังคนแรก ได้สร้างหลักเมืองไว้ที่ควนธานี (อยู่ในอำเภอกันตังในปัจจุบัน ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้ 8 กิโลเมตร) 2. สมัยตั้งเมืองที่กันตัง (พ.ศ. 2436-2458) ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยุคนี้พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) ดำรงตำแหน่งเจ้าเมือง ท่านเห็นว่าที่ตั้งเมืองเดิมคือควนธานีนั้นอยู่ห่างจากฝั่งทะเลมาก จึงกราบบังคมทูลขอย้ายที่ตั้งเมืองมาอยู่ที่ตำบลกันตัง เพราะที่นี่เป็นชุมชนใหญ่ มีชาวจีนเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
      ในช่วงที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีเป็นเจ้าเมืองนี้เองที่ตรังได้รับการพัฒนาไปอย่างมาก เช่น มีการนำต้นยางพาราจากมลายูมาปลูกเป็นครั้งแรก มีการตัดถนนจากตรังไปพัทลุง สร้างท่าเรือเพื่อรองรับการค้าขายกับต่างชาติ ฯลฯ นับเป็นยุครุ่งเรืองอย่างยิ่งเลยทีเดียว3. สมัยตั้งเมืองที่ทับเที่ยง (พ.ศ. 2458 จนถึงปัจจุบัน) ล่วงมาถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งตรงกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ทรงมีพระราชดำริว่า เมืองกันตังมีพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยจากอริราชศัตรู อีกทั้งมีการระบาดของไข้อหิวาตกโรค จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองมาตั้งอยู่ที่ตำบลทับเที่ยง ซึ่งเป็นที่ตั้งของอำเภอเมืองตรังในปัจจุบันนั่นเองจังหวัดตรังแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอกันตัง อำเภอห้วยยอด อำเภอย่านตาขาว อำเภอปะเหลียน อำเภอสิเกา อำเภอวังวิเศษ อำเภอนาโยง อำเภอรัษฎา และอำเภอหาดสำราญ
ทิปส์ท่องเที่ยว
  • หากจะเข้าถ้ำเขากอบ ต้องมั่นใจว่าตัวเองไม่เป็นคนกลัวที่แคบ เพราะปลายทางก่อนออกจากถ้ำนั้น เป็นโพรงแคบมาก ขนาดแค่เรือพาย 1 ลำลอดผ่านพอดี
  • ทุกครั้งที่เข้าถ้ำ อย่าแตะต้องหยดน้ำตรงปลายหินย้อย เพราะไขมันจากนิ้วมือจะทำให้หินย้อยไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้
  • หากจะไปเที่ยวถ้ำ ทางที่ดีควรมีไฟฉายคาดศีรษะที่กันน้ำติดตัวไปด้วย ถึงแม้ผู้ประกอบการจะมีไฟฉายให้ แต่การมีเป็นของตัวเองจะสะดวกกว่า และสามารถใช้ได้ในหลายกรณี
  • ก่อนลงดำน้ำ ควรทาแชมพูที่ด้านในของหน้ากากดำน้ำ จากนั้นนำหน้ากากดำน้ำไปแกว่งๆ ในน้ำทะเล แล้วค่อยสวม วิธีนี้เป็นการเคลือบฟิล์มที่หน้ากากดำน้ำ ทำให้ไม่เป็นฝ้ามัว
  • เตรียมกระเป๋ากันน้ำหรือถุงกันน้ำไปด้วยทุกครั้งเมื่อไปเที่ยวทะเล โดยเฉพาะเวลาพายคายัค เพื่อป้องกันของมีค่าเสียหายเมื่อโดนน้ำเป็นเวลานาน
  • เมื่อไปเที่ยวทะเล อย่าลืมนำโลชั่นกันแดด ค่า SPF สูงๆ หมวก แว่นกันแดดไปด้วย

การเดินทางไปจังหวัดตรัง

     ตรังอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 828 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดตรังได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง รถไฟ และเครื่องบิน

โดยรถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงไปถึงสถานีตรังทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 www.railway.co.th
โดยรถยนต์
จากกรุงเทพฯ ไปตรังได้ 2 เส้นทาง คือ1. ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านสุราษฎร์ธานี ทุ่งสง แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 403 สู่อำเภอห้วยยอด จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ไปจนถึงตรัง ระยะทางประมาณ 828 กิโลเมตร

2. ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) จนถึงจังหวัดชุมพร แล้วแยกเข้าระนอง พังงา กระบี่ ตรัง ระยะทางประมาณ 1,020 กิโลเมตร

โดยรถประจำทาง มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-ตรัง ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง

สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th ทรัพย์ไพศาลทัวร์ โทร. 0 2884 9584

ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com
โดยเครื่องบิน สายการบินที่ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-ตรัง คือ นกแอร์ โทร. 1318, 0 2900 9955 www.nokair.com วันทูโก โทร. 1126, 0 2229 4100-1 www.fly12go.com
การเดินทางภายใน ตรัง ในตัวเมืองตรังมีรถโดยสารประจำทางไปยังอำเภอต่างๆ ได้อย่างสะดวก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะได้หลายรูปแบบ ทั้งรถตุ๊กตุ๊กหน้ากบ รถสองแถว รถโดยสารประจำทาง ฯลฯ สอบถามรายละเอียดได้ที่สถานีขนส่งตรัง โทร. 0 7521 5718

นอกจากเส้นทางบนบก การเดินทางทางเรือก็เป็นอีกเส้นทางสำคัญสำหรับการท่องเที่ยว เพราะตรังเป็นเสมือนศูนย์กลางเดินทางไปท่องเที่ยวในหมู่เกาะต่างๆ ทั้งในพื้นที่จังหวัดตรังและจังหวัดกระบี่ ซึ่งมีน่านน้ำต่อเนื่องกัน

หลายท่าเรือของตรังมีเรือโดยสารให้บริการไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ท่าเรือปากเมง ท่าเรือหาดยาว เป็นต้น

ระยะทางจากอำเภอเมืองตรังไปยังอำเภอต่างๆ คือ

อำเภอนาโยง 12 กิโลเมตร

อำเภอย่านตาขาว 20 กิโลเมตร

อำเภอกันตัง 24 กิโลเมตร

อำเภอห้วยยอด 28 กิโลเมตร

อำเภอสิเกา 33 กิโลเมตร

อำเภอปะเหลียน 44 กิโลเมตร

อำเภอรัษฎา 57 กิโลเมตร

อำเภอหาดสำราญ 59 กิโลเมตร

อำเภอวังวิเศษ 60 กิโลเมตร

ที่พักจังหวัดตรัง


ธรรมลิน
      ห้องพัก ที่โรงแรมธรรมรินทร์ ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องลงตัวกับจุดมุ่งหมายทุกรูปแบบของนักเดินทาง ทั้งเพื่อการพักผ่อน และเพื่อการติดต่อธุรกิจ สำหรับการพักผ่อนที่เรียบง่าย ในบรรยากาศแบบสบายๆ เริ่มต้นที่ห้องพักมาตรฐาน จนถึงห้องที่กว้างขวางสะดวกสบาย
จำนวนห้องพัก : 117

ที่อยู่ : 99 ถนนสถานี สี่แยกธรรมรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง 92000
ข้อมูลการติดต่อ :  +66 7521 1011 - 14
                              +66 7521 8057
  


ตรัง อันดามัน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท
      บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ริมหาดปากเมง แหล่งท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อเราพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเป็นแหล่งพักผ่อนของท่านและครอบครัว สำหรับการท่องเที่ยว ตรัง
จำนวนห้องพัก : 20

ที่อยู่ : 218 หมู่ 4 ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
ข้อมูลการติดต่อ : 075 -207934     081- 8946936
เกาะมุก รับเบอร์ทรี รีสอร์ท
     บังกะโล อยู่ที่ เกาะมุก ทาง ฝั่งด้านตะวันตกของเกาะ อยู่เนินเขาเล็กๆ ห่างจากหาดเพียง 100 เมตร ท่านสามารถ เดินไปยังชายหาด sunset beach หรือ หาดฝรั่ง เพื่อชมอาทิตย์ลับขอบฟ้า ในยามเย็น ใกล้ๆกันนั้น นั่งเรือเพียง 10 นาที ก็จะถึง ถ้ำมรกต หนึ่งในความมหัศจรรย์ ของ unseen in Thailand และยังห่างจากเกาะกระดานเพียง 40 นาที
จำนวนห้องพัก : 13

ที่อยู่ : เกาะมุก 185/2 หมู่ 2 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 92110
ข้อมูลการติดต่อ : 0 7520 3284



วัฒนา พาร์ค
       พักผ่อนอย่างมีระดับ โรงแรมวัฒนา พาร์ค โรงแรมชั้นนำ อันดับหนึ่งในจังหวัดตรังด้วยจำนวนห้องพักทั้งหมด 122 ห้องพักตกแต่งแตกต่างอย่างหรูหรา ทันสมัยและสะดวกสบาบ
จำนวนห้องพัก : 122

ที่อยู่ : 315/7 ถนนห้วยยอด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง 92000
ข้อมูลการติดต่อ : +66 7521 6216       +66 7521 7217
โรงแรมตรัง
ที่พักในอำเภอเมือง จังหวัดตรัง

ที่อยู่ : 134/2-5 ถนนวิเศษกุล อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
ข้อมูลการติดต่อ : +66 7521 8157, +66 7521 8296,
                             +66 7521 8944  +66 7521 8451
โรงแรมควีน
ที่อยู่ : 85-89 ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง 92000
ข้อมูลการติดต่อ :  +66 7521 8229,    +66 7521 8422,   +66 7521 8522    +66 7521 0415

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดตรัง

      จังหวัดตรังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และการผจญภัย เช่น พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ต้นยางพาราต้นแรกของประเทศไทย เกาะกระดาน ถ้ำมรกต น้ำตกโตนเต๊ะ เกาะลิบง ฯลฯ

สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาช่อง
     ไปตามทางหลวงสายตรัง-พัทลุง อยู่ห่างจากตัวเมืองตรัง 21 กิโลเมตร   สถานที่แห่งนี้ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และน้ำตกต่างๆ ได้แก่ น้ำตกโตนใหญ่ น้ำตกโตนน้อย และน้ำตกกะช่อง เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย  มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง ระยะทาง 1.8 และ 2.8 กิโลเมตร ตามเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายอธิบายตามจุดต่างๆ นอกจากนั้นยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการเกี่ยวกับธรรมชาติ กิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สถานีมีบ้านพักและลานกางเต็นท์ แต่ต้องนำเต็นท์มาเอง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาช่อง หมู่ 7 ตำบลช่อง อำเภอนาโยง  ตู้ ปณ. 4 จังหวัดตรัง 92000  
เดินทางอย่างไร :โดยรถยนต์ ตามเส้นทางหลวงสายตรัง-พัทลุง อยู่ห่างจากตัวเมืองตรังประมาณ 21 กม. บริเวณหลักกม.ที่ 50 เลี้ยวขวาเข้าไปอีก 1.5 กม.

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 06.00 - 18.00
ข้อมูลการติดต่อ  หมู่ 7 ตำบลช่อง อำเภอนาโยง  ตู้ ปณ. 4 จังหวัดตรัง

ถ้ำเขาช้างหาย
ตั้งอยู่หมู่ที่ 5-6 ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยแบบต่าง ๆ ที่สวยงามสลับซับซ้อนอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้ำลึกประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาเดินชมประมาณ 20 นาที มีทางเดินคอนกรีตพร้อมทั้งติดไฟตามเส้นทางให้เดินได้อย่างสะดวกสำหรับเดินไปยังถ้ำต่าง ๆ เช่น ถ้ำช้างหาย ถ้ำเพกา ถ้ำทรายทอง ถ้ำโอง และถ้ำแม่เฒ่าคล้าย  สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 0 7529 9551

เดินทางอย่างไร :โดยรถยนต์ จากตลาดนาโยงแยกจากถนนหลวงเข้าสู่ถนนนาหมื่นศรีเข้าไปประมาณ
8 กม. สุดถนนคือถ้ำช้างหาย

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
ข้อมูลการติดต่อ เขตบ้านนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง





พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี
อยู่ห่างจากเทศบาลกันตังประมาณ 200 เมตร เป็นที่ตั้งของสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญ คือ “จวนเก่าเจ้าเมืองตรัง” หรือบ้านพักอดีตเจ้าเมืองตรังพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี  เป็นเรือนไม้ 2 ชั้น มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งและเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของท่านอย่างครบถ้วน โดยทายาทตระกูล ณ ระนอง เป็นผู้ดูแลรักษา เปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันจันทร์ (ถ้าตรงกับวันหยุดราชการเปิดตามปกติ และหยุดชดเชยในวันต่อไป) เวลา 08.30 -17.00 น.  ไม่เสียค่าเข้าชม   ผู้เข้าชมเป็นคณะที่ต้องการวิทยากรบรรยาย กรุณาแจ้งล่วงหน้าที่ โรงเรียนกันตังพิทยากร โทร. 0 7525 1100

เดินทางอย่างไร :โดยรถยนต์อยู่ห่างจากเทศบาลกันตัง 200 เมตร  อยู่ห่างจากเทศบาลกันตังประมาณ ๒๐๐ เมตร

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.30 - 17.00
ข้อมูลการติดต่อ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง   Tel. +66 7525 1100







ยางพาราต้นแรกของประเทศไทย
      ตั้งอยู่ริมถนนก่อนเข้าสู่ตัวอำเภอกันตัง  หน้าสหกรณ์การเกษตรกันตัง เป็นต้นยางรุ่นแรกที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ เจ้าเมืองตรังได้นำมาปลูกไว้เพื่อบุกเบิกอาชีพสวนยางพาราของชาวตรัง เมื่อปี พ.ศ. 2442 การเดินทาง  สามารถนั่งรถตู้ตรัง-กันตัง ใช้เวลา 20 นาที ขึ้นรถที่ถนนกันตัง ค่าโดยสารคนละ
25 บาท

เดินทางอย่างไร :โดยรถประจำทาง สามารถนั่งรถตู้ตรัง-กันตัง ใช้เวลา 20 นาที ขึ้นรถที่ถนนกันตัง ค่าโดยสารคนละ 25 บาท

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.30 - 16.30
ข้อมูลการติดต่อ เภอกันตัง จังหวัดตรัง







สวนสาธารณะควนตำหนักจันทน์
ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองกันตัง มีเนื้อที่ประมาณ 250  ไร่ รอบบริเวณร่มรื่นด้วยต้นไม้ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ มีศาลาพักผ่อน สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเล และอำเภอกันตังได้กว้างไกล

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 18.00
ข้อมูลการติดต่อ  อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง





หาดยาว
      อยู่หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะลิบง เป็นหาดทรายยาวต่อจากโขดเขารูปกระโดงฉลามขึ้นมาทางด้านเหนือ มีสนทะเลขึ้นเป็นแนวดูสวยงาม มีชายหาดกว้างเหมาะจะเข้าค่ายพักแรม และมีบริการที่พักของเอกชน จากหาดยาวนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือไปเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ ได้

การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกับหาดหยงหลิง และมีรถตู้ประจำทางสายตรัง-หาดยาว ให้บริการ ขึ้นรถได้ที่ถนนท่ากลาง อำเภอเมือง

เดินทางอย่างไร :โดยรถประจำทาง  จากตัวเมืองตรังโดยรถตู้ปรับอากาศสาย ตรัง-หาดยาว ค่าโดยสารคนละ 40 บาท

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 24 Hour
ข้อมูลการติดต่อ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง




เกาะลิบง
      เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลตรัง มีพื้นที่ 25,000 ไร่  รอบๆ เกาะเต็มไปด้วยหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของ “พะยูน” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กำลังจะสูญพันธุ์ แต่จะพบได้มากบริเวณเกาะลิบง เกาะลิบงได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง มีที่ทำการเขตฯ อยู่บริเวณแหลมจุโหย รอบๆ เกาะมีสถานที่น่าเที่ยวชมหลายแห่ง เช่น หาดตูบ แหลมจุโหย แหลมทวด แหลมโต๊ะชัย หาดหญ้าคา เป็นต้น บริเวณแหลมจุโหยนั้นเป็นหาดทราย  เวลาน้ำลดสามารถเดินทางไปถึงหาดตูบ ซึ่งมีนกทะเลและนกชายเลนจำนวนมากที่อพยพหนีหนาวมาอาศัยที่นี่เพียงแห่งเดียว  โดยเฉพาะเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม อาทิ นกกินเปี้ยว นกกวัก นกยางเขียว นกนางนวลแกลบเคราขาว นกหัวโตขาดำ เป็นต้น เกาะลิบงมีชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากแบ่งเป็นหลายหมู่บ้าน ชาวบ้านยังดำเนินวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ทำอาชีพประมง สวนยางพารา ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม   

การเดินทาง มีเรือโดยสารจากท่าเรือเจ้าไหม ถึงท่าเรือบ้านพร้าวบนเกาะลิบง หรือเช่าเรือเหมาลำ ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว(เป็นของเอกชน)  สอบถามข้อมูลติดต่อ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ตู้ ปณ. 5 อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง  โทร. 0 7525 1932

เดินทางอย่างไร :โดยเรือ มีเรือโดยสารจากท่าเรือเจ้าไหม ถึงท่าเรือบ้านพร้าวบนเกาะลิบง หรือเช่าเรือเหมาลำ ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว(เป็นของเอกชน)  สอบถามข้อมูลติดต่อ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ตู้ ปณ. 5 อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง  โทร. 0 7525 1932 

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 07.00 - 17.00
ข้อมูลการติดต่อ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง  Tel. 0 7525 1932





เกาะมุก - ถ้ำมรกต
     นับเป็นจุดเด่นที่สุดในทะเลตรัง ลักษณะของเกาะทางด้านทิศตะวันตกส่วนใหญ่เป็นโขดหน้าผาหินสูงตระหง่านหันหน้าออกสู่ทะเล ทางฝั่งตะวันออกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง ที่ยังคงวิถีชีวิตของชาวเกาะไว้อย่างดี สามารถเดินเที่ยวรอบเกาะได้ และทางด้านทิศตะวันตกของกเกาะมุก มีถ้ำมรกตหรือถ้ำทะเลซึ่งมีความงดงามตระการตาอย่างมาก จากปากทางเข้าถ้ำเป็นโพรงเล็กๆ การเข้าชมภายในถ้ำ จะต้องว่ายน้ำลอยคอเข้าไป ระยะทาง 80 เมตร

บริเวณปากทางเข้าถ้ำแสงจากภายนอกจะสะท้อนกับน้ำภายในถ้ำทำให้เห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกต ดูแปลกตาและมหัศจรรย์ในความสวยงามที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้าง เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเห็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน นั่งเล่นน้ำได้ เกาะมุกมีที่พักเอกชนบริการ

การเดินทาง นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะมุก สามารถเช่าเหมาลำเรือจากท่าเรือปากเมง อำเภอสิเกา ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าเช่าเรือเหมาลำราคาประมาณ 2,000-3,000 บาท/วัน หรือใช้บริการเรือโดยสาร จากท่าเรือควนตุ้งกู ซึ่งมีบริการวันละ 1 เที่ยว เวลา 12.00 น. และเรือจากเกาะมุก
เวลา 07.00 น.

เดินทางอย่างไร :โดยเรือ นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะมุก สามารถเช่าเหมาลำเรือจากท่าเรือปากเมง อำเภอสิเกา ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าเช่าเรือเหมาลำราคาประมาณ 2,000-3,000 บาท/วัน หรือใช้บริการเรือโดยสาร จากท่าเรือควนตุ้งกู ซึ่งมีบริการวันละ 1 เที่ยว เวลา 12.00 น. และเรือจากเกาะมุก เวลา 07.00 น.

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 07.00 - 17.00
ข้อมูลการติดต่อ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง




เกาะกระดาน
      เป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรัง อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง มีเนื้อที่ 600 ไร่ ซึ่ง 5 ใน 6 ส่วนของเกาะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่เหลือเป็นของเอกชน เกาะกระดานมีชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการังซึ่งเป็นปะการังน้ำตื้น ตลอดจนฝูงปลาหลากสีหลายพันธุ์  บนเกาะมีที่พักบริการทั้งของเอกชน และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช
  การเดินทาง สามารถเช่าเรือจากท่าเรือปากเมงหรือท่าเรือเจ้าไหม ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง ค่าเช่าเรือเหมาลำราคาประมาณ 2,000-3,000 บาท/วัน


เดินทางอย่างไร :โดยเรือ สามารถเช่าเรือจากท่าเรือปากเมงหรือท่าเรือเจ้าไหม ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง ค่าเช่าเรือเหมาลำราคาประมาณ 2,000-3,000 บาท/วัน

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00
ข้อมูลการติดต่อ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง




อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม
      เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอกันตังและอำเภอสิเกา มีอาณาเขตชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 20 กิโลเมตร อุทยานประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2525 ที่ทำการอุทยานอยู่ที่หาดฉางหลาง ตำบลไม้ฝาด แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ พื้นที่ดินสถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานฯ     ได้แก่ หาดปากเมง หาดฉางหลาง หาดยาว หาดหยงหลิง หาดสั้น หาดเจ้าไหม ถ้ำเจ้าไหม นอกจากนี้ยังมีเกาะน้อยใหญ่อีก 7 เกาะในทะเลตรัง ที่อยู่ในความดูแลของอุทยานฯ ได้แก่ เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะเชือก เกาะปลิง เกาะแหวน เกาะเมง และเกาะเจ้าไหม         

นอกจากนั้นบริเวณอุทยานฯ มีศูนย์ศึกษาธรรมชาติทางทะเล จะทำการวิจัยหญ้าทะเล เป็นแหล่งคุณค่าทางนิเวศวิทยาของฝั่งทะเลอันดามัน สนใจสอบถามขัอมูลเพิ่มเติม โทร. 0 7521 3258 อุทยานฯ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวบริการ สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง  92150 โทร. 0 7521 3260

การเดินทาง อุทยานฯ อยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 47 กิโลเมตร ใช้เส้นทางสายตรัง-สิเกา-ปากเมง (ทางหลวงหมายเลข 4046-4162) แล้วเลี้ยวซ้ายตามถนนเลียบชายหาดอีก 4 กิโลเมตร

เดินทางอย่างไร :โดยรถยนต์ ตั้งอยู่ที่หาดฉางหลาง ห่างจากตัวเมือง 27 กม. ตามเส้นทางสาย 4046 ระยะทาง 40 กม. และ เลี้ยวซ้ายตาม ถนนเลียบชายหาด อีก 7 กม. ก็จะถึงที่ทำการ

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 06.00 - 18.00
ข้อมูลการติดต่อ ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง   Tel. +66 7521 3260

 



เกาะไหง
     ที่อยู่ในเขตอำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ แต่จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มของทะเลตรัง เนื่องจากการเดินทางจากจังหวัดตรังสะดวกมากกว่า หาดทรายบนเกาะขาว น้ำทะเลใส มองเห็นปลาหลายพันธุ์หลากสี รอบเกาะปะการังยังสมบูรณ์ บนเกาะมีที่พักเอกชนบริการหลายแห่ง
 การเดินทาง สามารถเช่าเรือจากท่าเรือปากเมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง   สนใจติดต่อบริษัทนำเที่ยวตรัง

เดินทางอย่างไร :โดยทางอื่นมีเรือโดยสาร ของแต่ละรีสอร์ทคอยให้บริการ เวลาออกจากท่าเรือปากเม็งขึ้นอยู่กับรีสอร์ทนั้นๆ โดยทั่วไปตั้งแต่ 10.30 น.-12.30 น.เป็นเรือเร็วใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที ราคาคนละ 450 บาท หรือถ้าเป็นเรือใหญ่จะออกเวลา 16.30 น. ราคาท่านละ 450 บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 45-60 นาที นอกจากนี้มีเรือหางยาวให้เช่าราคาเหมาลำประมาณลำละ 1,200 บาท

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00
ข้อมูลการติดต่อ อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง  92150



หาดปากเมง
ตั้งอยู่ที่ตำบลไม้ฝาด เป็นหาดรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวยาวประมาณ 5 กิโลเมตร มีความสวยงามและสงบเงียบ ชายหาดมีป่าสนตามธรรมชาติขึ้น


เดินทางอย่างไร :โดยรถประจำทาง
จากตัวเมืองตรัง โดยสารรถตู้ปรับอากาศ สายตรัง-ปากเมง ค่าโดยสารคนละ 40 บาท
การเดินทางไปยังหาดปากเมง. ไปตามทางหลวงหมายเลข 4046–4162 (ตรัง-สิเกา-ปากเมง) ระยะทาง 38 กิโลเมตร เมื่อถึงหาดปากเมงเลี้ยวขวาประมาณ 1 กิโลเมตร

วันเปิดทำการ: วันจันทร์ - วันอาทิตย์
ข้อมูลการติดต่อ  หมู่ 4 ตำบลไม้ฝาด







ประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ตรัง

เทศกาลขนมเค้ก จังหวัดตรัง
      จำหน่ายขนมเค้กราคาพิเศษ จำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดตรัง ชมขบวนพาเหรดแฟนซี การประกวด การแสดงบนเวที/ดนตรี
ข้อมูลการติดต่อ : หอการค้าจังหวัดตรัง  โทร.0 7521 0238, 0 7522 5353
                                ททท. สำนักงานตรัง   Tel. +66 7521 5867, +66 7521 1058 , +66 7521 1085
กลุ่มผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไม้เทพทาโรถ้ำเล
  จำหน่ายผลิตภัณฑ์แกะสลักไม้เทพทาโร

ที่อยู่ : 78/2 หมู่ 1 ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
โทร : 0 7523 3082, 08 9158 3454, 08 4003 5200

จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ

        สุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศอีกจังหวัดหนึ่ง เพราะมีธรรมชาติอันสวยงาม ทั้งหมู่เกาะต่างๆ เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน หมู่เกาะอ่างทอง และมีพื้นที่ป่าดิบชื้นบนบกที่อุดมด้วยพืชพรรณอันหลากหลาย สายน้ำมากมาย และสัตว์ป่านานาชนิดสุราษฎร์ธานียังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบครบครัน มีการคมนาคมที่สะดวกทั้งทางรถ รถไฟ เรือ และเป็นที่ตั้งของสนามบินถึง 2 แห่ง ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จนปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนใต้ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลไปเยี่ยมเยือนปีละหลายล้านคน

        จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีเนื้อที่ประมาณ 12,891 ตารางกิโลเมตร หรือ 8,056,875 ไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ และมีขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้ สภาพภูมิประเทศมีความหลากหลายตั้งแต่เกาะขนาดต่างๆ ในทะเลอ่าวไทย ภูเขา ที่ราบสูง ที่ราบชายฝั่งทะเล และที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีแม่น้ำที่สำคัญ คือ แม่น้ำตาปีและแม่น้ำไชยา มีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 156 กิโลเมตรสุราษฎร์ธานีเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีชนพื้นเมืองเป็นพวกเซมังและชาวมลายูดั้งเดิม ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตลุ่มน้ำหลวง (แม่น้ำตาปี) และบริเวณอ่าวบ้านดอน และจากการค้นพบร่องรอยของอารยธรรมศรีวิชัยในเขตอำเภอไชยา และพบร่องรอยของเมืองเก่าอีกหลายแห่งบริเวณรอบอ่าวบ้านดอน เช่น เมืองกาญจนดิษฐ์ เมืองท่าทอง เมืองพุนพิน และเมืองเวียงสระ จึงสันนิฐานว่าเมืองไชยาเคยเป็นราชธานีของอาณาจักรศรีวิชัยในอดีตเมื่ออาณาจักรศรีวิชัยเสื่อมอำนาจลง เมืองในแถบนี้ได้แยกออกเป็น 3 เมือง คือ เมืองไชยา เมืองท่าทอง และเมืองคีรีรัฐ อยู่ภายใต้การปกครองของเมืองนครศรีธรรมราช ตรงกับช่วงเวลาที่อาณาจักรสุโขทัยทางเหนือกำลังเจริญรุ่งเรือง และได้ขยายอำนาจลงมาทางใต้ไปถึงแหลมมลายู เมืองไชยาจึงตกอยู่ภายใต้การปกครองของกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาในเวลาต่อมาต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมืองนครศรีธรรมราชอ่อนแอลง ในขณะที่บ้านดอนมีความเจริญรุ่งเรืองมาก เพราะมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองท่าทองมาตั้งที่บ้านดอน และยกฐานะเป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร
        โดยพระราชทานนามเมืองใหม่ว่า “กาญจนดิษฐ์” ครั้นเมื่อมีการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล จึงโปรดเกล้าฯ ให้รวมเมืองกาญจนดิษฐ์ (บ้านดอน) เมืองคีรีรัฐนิคม และเมืองไชยา เข้าเป็น “อำเภอเมืองไชยา” ต่อมาได้มีการกำหนดให้เรียกอำเภออันเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดว่า “อำเภอเมือง” บ้านดอนซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งศาลากลางจังหวัดในขณะนั้น จึงเปลี่ยนเป็น “อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี” แปลว่าเมืองแห่งคนดี ตามชื่อจังหวัดที่ได้รับพระราชทาน ส่วนอำเภอเมืองไชยาก็ถูกตัดคำว่า “เมือง” ออกเหลือเพียง “อำเภอไชยา” เป็นอำเภอหนึ่งของสุราษฎร์ธานีมาจนทุกวันนี้ปัจจุบันจังหวัดสุราษฎร์ธานีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 18 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน อำเภอคีรีรัฐนิยม อำเภอพนม อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเกาะสมุย อำเภอดอนสัก อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอท่าฉาง อำเภอบ้านนาสาร อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านตาขุน อำเภอเกาะพะงัน อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอชัยบุรี และกิ่งอำเภอวิภาวดี

ทิปส์ท่องเที่ยว
  • ช่วงเวลาสำหรับการชมดอกบัวผุดที่อุทยานแห่งชาติเขาสก คือระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม โดยมีจุดที่พบอยู่หลายจุด ผลัดกันบานหมุนเวียนกันไป เนื่องจากบัวผุดแต่ละดอกเมื่อบานแล้วจะอยู่ได้เพียงประมาณ 7 วัน แล้วก็จะโรยไป
  • โปรแกรมการฝึกนั่งสมาธิและศึกษาธรรมะที่สวนโมกขพลาราม มีการสอนฝึกสมาธิแก่ชาวต่างประเทศทุกวันที่ 1-10 ของเดือน
  • สำหรับคนไทยทุกวันที่ 20–27 ของเดือน ตั้งแต่เวลา 8.30–17.00 น.

การเดินทางไปสุราษฎร์

สุราษฎร์ธานีอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 685 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง และรถไฟ

โดยรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานีทุกวัน (สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีอยู่ในอำเภอพุนพิน) ทั้งรถธรรมดา รถเร็ว รถด่วน และรถด่วนพิเศษ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9-11 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือ www.railway.co.th
โดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 หรือถนนธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงชุมพร แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จนถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมระยะทางประมาณ 685 กิโลเมตร
โดยรถประจำทาง มีรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี กรุงเทพฯ-เกาะสมุย และกรุงเทพฯ-เกาะพะงัน ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-12 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th

ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com
โดยเครื่องบิน การบินไทยและไทยแอร์เอเชียมีเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวัน และบางกอกแอร์เวย์ส มีเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลการเดินทาง ตารางเที่ยวบิน และสำรองที่นั่งได้ที่

การบินไทย โทร. 0 2356 1111 www.thaiairways.co.th

บางกอกแอร์เวย์ส โทร. 0 2270 6699 www.bangkokair.com

ไทยแอร์เอเชีย โทร. 0 2515 9999 www.airasia.com
การเดินทางภายใน สุราษฎร์ธานี       ในตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีรถชนิดต่างๆ ให้บริการ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะต่างๆ ได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสม

มีรถแท็กซี่บริการเช่าเหมาคันไปยังที่ต่างๆ ทั้งในและนอกเมือง รถจอดอยู่ที่ตลาดเกษตร และสามารถเรียกไปรับตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองได้

รถสองแถวเล็ก หรือรถตุ๊กตุ๊ก 4 ล้อ มีวิ่งบริการทั่วเมือง นักท่องเที่ยวอาจเหมารถไปเที่ยวได้ทั้งในเมืองและต่างอำเภอ คิดราคาขึ้นอยู่กับระยะทางและการต่อรอง

รถสามล้อและมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดอยู่ตามจุดต่างๆ ในจังหวัด เช่น หน้าตลาดเกษตร หน้าสถานีขนส่ง ค่าบริการมีทั้งแบบตกลงกันตามแต่ระยะทางและแบบเหมาจ่าย

การเดินทางโดยเรือจากฝั่งไปยังเกาะต่างๆ มีเรือเฟอร์รี เรือนอน และเรือเร็วของบริษัทเอกชนหลายรายออกจากท่าเรือดอนสักไปยังเกาะสมุยและเกาะพะงัน วันละหลายเที่ยว เรือเฟอร์รีสามารถบรรทุกรถยนต์ข้ามไปได้ ค่าบริการคิดตามขนาดของรถและจำนวนคน และมีเรือโดยสารวิ่งบริการระหว่างเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ทุกวัน

ระยะทางจากอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีไปยังอำเภอต่างๆ คือ

อำเภอพุนพิน 12 กิโลเมตร

อำเภอกาญจนดิษฐ์ 18 กิโลเมตร

อำเภอท่าฉาง 37 กิโลเมตร

อำเภอบ้านนาสาร 41 กิโลเมตร

อำเภอบ้านนาเดิม 50 กิโลเมตร

อำเภอคีรีรัฐนิคม 55 กิโลเมตร

อำเภอดอนสัก 61 กิโลเมตร

อำเภอเคียนซา 61 กิโลเมตร

อำเภอไชยา 68 กิโลเมตร

อำเภอพระแสง 68 กิโลเมตร

อำเภอเวียงสระ 68 กิโลเมตร

อำเภอวิภาวดี 70 กิโลเมตร

อำเภอบ้านตาขุน 71 กิโลเมตร

อำเภอท่าชนะ 78 กิโลเมตร

อำเภอพนม 80 กิโลเมตร

อำเภอเกาะสมุย 84 กิโลเมตร

อำเภอเกาะพะงัน 100 กิโลเมตร

อำเภอชัยบุรี 112 กิโลเมตร

ที่พักในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

      จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีโรงแรมขนาดต่างๆ รีสอร์ตหลายรูปแบบ เกสต์เฮาส์ และบังกะโล จำนวนมากบนเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ในอำเภอเมืองฯ และอำเภอพนม ราคาห้องพักเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับประเภทของห้องพักและที่ตั้ง เช่น บนเกาะสมุยมีที่พักบางแห่งราคาถึงหลักแสนบาทในอำเภอพุนพินและอำเภอเมืองฯ มีที่พักแบบโฮมสเตย์ ดำเนินการโดยชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยยังคงรูปแบบวัฒนธรรมความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และสัมผัสอย่างใกล้ชิด โฮมสเตย์เหล่านี้มีบริการที่พัก อาหาร และนำเที่ยว ในราคาที่ไม่แพงนอกจากนี้สุราษฎร์ธานียังมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีบริการบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และเต็นท์ให้เช่าในราคาย่อมเยา สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและต้องการใกล้ชิดธรรมชาติเป็นพิเศษ รวมทั้งผู้ที่นิยมการพักผ่อนในบรรยากาศแบบแค้มปิ้งด้วย เช่น อุทยานแห่งชาติเขาสก อุทยานแห่งชาติคลองพนม อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ฯลฯ


เดอะ เซนทริโน เซอร์วิส เรสซิเดนซ์
      
        ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุราษฎร์ธานี(ซิตี้เซ็นเตอร์) ผู้เข้าพักสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้ง่ายดาย โรงแรมตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เซ็นทรัลพลาซ่าสุราษฎร์ธานี และสำหรับท่านที่โดยสารรถลีมูซีนจากสนามบินสามารถลงรถตรงบริเวณทางเข้าโรงแรมได้เลย
เดอะ เซนทริโน เซอร์วิส เรสซิเดนซ์ บริการห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นให้แก่นักท่องเที่ยว เรามีที่จอดรถมากเพียงพอสำหรับท่านที่นำรถมาด้วย

        โรงแรมประกอบด้วยห้องพักมาตรฐานทั้งหมด 58 ห้อง ภายในแต่ละห้องมีเครื่องปรับอากาศ LCD TV(เคเบิล) ตู้เย็น ฝักบัวน้ำอุ่น อินเตอร์เน็ตไร้สาย(ไม่เสียค่าใช้จ่าย) โรงแรมเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่มาพักผ่อนหรือผู้ที่มาติดต่อธุรกิจในเมืองสุราษฎร์ธานี หากท่านกำลังมองหาที่พักที่นอนหลับสบาย สะอาด เดอะ เซ็นทริโน เซอร์วิส เรสซิเดนซ์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะบริการท่าน


จำนวนห้องพัก : 58
เวลาเช็คอิน : 14:00
เวลาเช็คเอ๊าท์ : 12:00

Studio
Studio room: We have double bed room and twin room. LCD TV, Minibar, air-condition and Free- WIFI
ขนาดห้อง : 25 ตร.ม.
จำนวนห้อง : 36
Studioช่วงราคา : 550 - 550 บาท

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง :
  • Storage Space
  • Shower
  • Remote Control Television
  • Fire Alarm
  • Double Beds
  • Desk with Electrical Outlet
  • Complimentary High Speed Internet in Room
  • Non Smoking Rooms
  • Bathroom Amenities
  • Balcony/Lanai/Terrace
  • Satellite/ Cable TV
  • Television
  • Hot water
  • Wi-Fi
  • Air Conditioned
  • Refrigerator
ที่ตั้ง : เขตเมืองเมืองสุราษฎร์ธานี
ที่อยู่ : 160/76 หมู่2 ซอยศรีวิชัย 55 ถ.ศรีวิชัย
          ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎรฺธานี
ข้อมูลการติดต่อ :  +668 6683 6938
                              +66 7720 6632

Worapoj Resort & Gym
      บ้านพักท่ามกลางธรรมชาติ รายล้อมด้วยภูเขาให้ความสงบ ร่มรื่น ด้วยต้นไม้ที่เขียวขจี ดอกไม้นานาพันธุ์ ห้องพักทุกหลังตกแต่งสไตล์ธรรมชาติ เหมาะกับการพักผ่อน ท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อาทิ เขื่อนรัชชประภา, อุทยานแห่งชาติคลองพนม และอุทยานแห่งชาติเขาสก ฯลฯ

จำนวนห้องพัก : 9
เวลาเช็คอิน : 11:00
เวลาเช็คเอ๊าท์ : 12:00
High Season : ตุลาคม - มกราคม
Low Season : กุมภาพันธ์ - กันยายน
บ้านกรรณิการ์,วาสุเทพ
บ้านกรรณิการ์,วาสุเทพ
ห้องพักทุกหลังตกแต่งสไตล์ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อน สัมผัสทัศนียภาพของภูเขา อบอวลด้วยเสียงธรรมชาติ พร้อมสิ่งอำนายความสะดวกครบครัน
จำนวนห้อง : 2
ช่วงราคา : 1,800 - 2,000 บาท

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง :
  • Single Bed
  • Shower
  • Rollaway Bed
  • Remote Control Television
  • Bathroom Amenities
  • Balcony/Lanai/Terrace
  • Satellite/ Cable TV
  • Television
  • Bath ensuite
  • Hot water
  • Shower ensuite
  • DVD player
  • Air Conditioned
  • In room safety
  • Refrigerator
บ้านพัชรา,วาทิต,วรากร
บ้านพัชรา,วาทิต,วรากร
ห้องพักทุกหลังตกแต่งสไตล์ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อน สัมผัสทัศนียภาพของภูเขา อบอวลด้วยเสียงธรรมชาติ พร้อมสิ่งอำนายความสะดวกครบครัน
จำนวนห้อง : 3
ช่วงราคา : 1,000 - 1,200 บาท

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง :

  • Single Bed
  • Shower
  • Rollaway Bed
  • Remote Control Television
  • Bathtub/Shower Combination
  • Bathroom Amenities
  • Balcony/Lanai/Terrace
  • Satellite/ Cable TV
  • Television
  • Bath ensuite
  • Hot water
  • Shower ensuite
  • DVD player
  • In room safety
  • Refrigerator
หมายเหตุ : ห้องพัดลม  
บ้านธนาวุฒิ(บ้านไม่ไผ่)
บ้านธนาวุฒิ(บ้านไม่ไผ่)
ห้องพักทุกหลังตกแต่งสไตล์ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อน สัมผัสทัศนียภาพของภูเขา อบอวลด้วยเสียงธรรมชาติ พร้อมสิ่งอำนายความสะดวกครบครัน
จำนวนห้อง : 4
ช่วงราคา : 350 - 500 บาท

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง :

  • Single Bed
  • Bathtub/Shower Combination
  • Bathroom Amenities
  • Shower ensuite
หมายเหตุ : ห้องพัดลม

สถานที่ท่องเที่ยว สุราษฎร์ธานี

อุทยานแห่งชาติเขาสก
      ครอบคลุมพื้นที่อำเภอบ้านตาขุน อำเภอพนม และอำเภอคีรีรัฐนิยม  มีพื้นที่ 461,712 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ  เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2537  สภาพโดยทั่วไปเป็นภูเขาดิน และภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อน มีแนวหน้าผาสูงชัน ด้านทิศเหนือเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เกิดจากการก่อสร้างเขื่อนรัชชประภา มีป่าไม้และสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์ พันธุ์ไม้หายากที่พบในเขตอุทยานฯ  ได้แก่ ปาล์มหลังขาว และ บัวผุด เป็นดอกไม้ขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 10-25 นิ้ว ขึ้นอยู่บนพื้นดิน จะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง มกราคม ส่วนสัตว์หายากที่น่าสนใจ ได้แก่ กบทูด และปลามังกร ช่วงเวลาที่เหมาะจะเดินทางมาท่องเที่ยวคือ เดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน นอกจากนั้นอุทยานฯ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การล่องแก่ง เดินป่า นั่งช้าง ดูนก และเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ 

อุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ - วังยาว น้ำตกบางหัวแรด และน้ำตกวิ่งหิน  น้ำตกบางหัวแรด เป็นน้ำตกสองชั้นที่สวยงามแต่ไม่สูงมาก ชั้นแรกไหลจากบางหัวแรดลงสู่คลองสก ชั้นที่สองอยู่ในคลองสก มีน้ำไหลตลอดปี ห่างลงมาประมาณ 120 เมตร มีน้ำตกวิ่งหินไหลลงมาบรรจบเหนือขึ้นไป 40 เมตร มีวังสำหรับเล่นน้ำ เรียกว่า “วังยาว”  อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 3 กิโลเมตร
-ตั้งน้ำ  มีลักษณะเป็นภูเขาที่ถูกน้ำกัดเซาะจนขาดออกจากกัน ทำให้กลายเป็นหน้าผาหันหน้าเข้าหากัน มีลำคลองสกไหลลอดผ่านเบื้องล่าง อยู่ห่างจากที่ทำการฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร ห่างจากน้ำตกวิ่งหินประมาณ 3.2 กิโลเมตร ต้องเดินทางโดยทางเท้า
- น้ำตกโตนกลอย  เกิดจากคลองสก เป็นน้ำตกชั้นเดียว มีลานหินสำหรับพักผ่อนบนชั้นน้ำตก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 9 กิโลเมตร
- น้ำตกโตนไทร  เป็นน้ำตกที่ไม่สูงนัก อยู่ในลำคลองสก ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 11 กิโลเมตร ห่างจากน้ำตกโตนกลอย ประมาณ 2 กิโลเมตร
น้ำตกธารสวรรค์  ไหลลงมาจากหน้าผาชัน พุ่งโค้งแบบรุ้งกินน้ำ ไหลลงสู่คลองสก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 9 กิโลเมตร ห่างจากตั้งน้ำประมาณ 3กิโลเมตร
น้ำตกสิบเอ็ดชั้น  อยู่ห่างจากที่ทำการฯ 4 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาเป็นชั้นๆ ลดหลั่นกันมาตามร่องหน้าผาเป็นรูปขั้นบันได 11 ขั้น ชั้นล่างสุดของน้ำตกจะมีแอ่งน้ำสำหรับลงเล่นน้ำได้  ต้องเดินทางโดยทางเท้า
น้ำตกแม่ยาย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 4.5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกชั้นเดียวสูงประมาณ 30 เมตร รถยนต์สามารถไปถึงได้ ตั้งอยู่ริมถนนสายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า บริเวณกิโลเมตรที่  113 

อุทยานฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง คือ- เส้นทางที่ 1  น้ำตกบางหัวแรด-น้ำตกโตนกลอย  เริ่มเดินจากที่ทำการอุทยานฯ ข้ามคลองบางเลน ไป น้ำตกบางหัวแรด ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 3 กิโลเมตร เป็นน้ำตก 2 ชั้น ไม่สูงมากนัก เดินเลียบคลองสก ผ่าน น้ำตกวิ่งหิน อยู่ห่างไป 120 เมตร มีความสูงประมาณ 20 เมตร ไหลสู่คลองสก เดินทางต่อไปตามเส้นทางเดินเท้าเลียบคลองสกผ่าน วังยาว ห่างประมาณ 40 เมตร เป็นวังน้ำลึก เดินเท้าขึ้นภูเขาเตี้ย ๆ ข้ามคลองสก มีทางแยกซ้ายเข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบ น้ำตกธารสวรรค์  เป็นน้ำตกที่ไหลสู่คลองสก มีลักษณะเป็นแนวโค้งคล้ายแนวรุ้งกินน้ำ  จากนั้นเดินเลียบคลองสกไปอีก 2 กิโลเมตร จะถึง ตั้งน้ำ หรือต้นน้ำ เป็นภูเขาซึ่งถูกน้ำเซาะจนกลายเป็นหน้าผาหันหน้าเข้าหากัน มีลำคลองสกลอดผ่าน เบื้องล่างเป็นวังน้ำลึก ซึ่งเป็นสถานที่ลอยเถ้าอังคาร (เถ้ากระดูก) ของท่านพุทธทาส จากตั้งน้ำเดินเท้าปีนเขา ประมาณ 3 กิโลเมตร ถึง น้ำตกโตนกลอย  เป็นน้ำตกชั้นเดียว เกิดจากลำคลองสก มีน้ำไหลแรงตลอดปี   ตลอดเส้นทางมีความยาว 9 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินได้เอง เส้นทางเดินไม่ลำบาก

- เส้นทางที่ 2 น้ำตกสิบเอ็ดชั้น  เป็นเส้นทางที่ต้องปีนภูเขาสู่น้ำตกสิบเอ็ดชั้น ระยะทางเดิน 4 กิโลเมตร เส้นทางเดินค่อนข้างชัน สามารถเดินเองได้ ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง น้ำตกสิบเอ็ดชั้น เกิดจากคลองบางเลน เป็นน้ำตกรูปขั้นบันได มี 11 ชั้น 

- เส้นทางที่ 3 เป็นเส้นทางเดินที่ใช้เส้นทางเดียวกับน้ำตกสิบเอ็ดชั้น แต่เป็นเส้นวงกลม มีทางเดินเป็นขั้นบันได ตามเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมาย สามารถเดินเองได้ ระยะทาง 2 กิโลเมตร

ที่พัก  อุทยานฯ มีบ้านพักบริการ 2 หลัง ราคา 800-1,000 บาท มีเต็นท์ให้เช่าราคาหลังละ 150-600 บาท/คืน นักท่องเที่ยวที่นำเต็นท์ไปเอง เสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ คนละ 30 บาท และค่าพักแรมคนละ 20 บาท

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาสก หมู่ที่ 6 ตำบลคลองสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี  โทร. 0 7739 5154-5 www.dnp.go.th   และใกล้ที่ทำการอุทยานฯ มีที่พักของเอกชนบริการหลายแห่ง บางแห่งเป็นบ้านบนต้นไม้  ซึ่งเป็นอีกบรรยากาศของที่พักที่นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสได้

การเดินทาง  จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีใช้เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า (ทางหลวงหมายเลข 401) ถึงกิโลเมตรที่ 109 มีแยกขวาไปอีก 1.5 กิโลเมตร ถึงบริเวณที่ทำการอุทยานฯ  หรือจากสถานีรถไฟ อำเภอพุนพิน สุราษฎร์ธานี มีรถประจำทางสายพุนพิน-ภูเก็ต ลงรถบริเวณกิโลเมตรที่ 109 แล้วต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้าสู่ที่ทำการอุทยานฯ  สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เตรียมอาหารหรือเสบียงในการพักค้างแรมที่อุทยานฯ สามารถจะหาซื้อของใช้ได้ที่บริเวณบ้านตาขุน ซึ่งเป็นชุมชนที่มีร้านค้าหลายแห่งก่อนเดินทางไปอุทยานฯได้   

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00
ข้อมูลการติดต่อ  หมู่ 6 ตำบลคลองสก อำเภอพนม สุราษฎร์ธานี    Tel. 0 7739 5154-5







หินตา หินยาย
       อยู่บริเวณอ่าวละไม ตำบลมะเร็ด อำเภอเกาะสมุย  หินตาหินยายเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของหินแกรนิตเกิดจากการกัดเซาะโดยน้ำทะเลและความร้อนจนเกิดเป็นโขดหินรูปร่างประหลาด มีนิทานท้องถิ่นเล่ากันต่อๆ มาว่า นานมาแล้ว มีตายายคู่หนึ่งชื่อ ตาเครงกับยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางโดยเรือใบเพื่อจะไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่าย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้กับลูกชาย ครั้นเรือแล่นมาถึงบริเวณอ่าวละไม เกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม ทั้งตาและยายเสียชีวิต คลื่นซัดขึ้นเกยหาดและกลายเป็นหินที่เห็นในปัจจุบันนี้

วันเปิดทำการ: วันจันทร์ - วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ: 06.00 - 18.00
ข้อมูลการติดต่อ   อ่าวละไม ตำบลมะเร็ด อำเภอเกาะสมุย




วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
      อยู่ตำบลเวียง ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 54 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 41 และแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 4011 เลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 137 องค์พระเจดีย์เป็นโบราณสถาน ที่สร้างขึ้นตามแบบลัทธิมหายาน ตั้งแต่ครั้งอาณาจักรศรีวิชัยรุ่งเรือง รอบองค์พระธาตุมีเจดีย์เล็กๆ 4 ทิศ ล้อมรอบด้วยวิหารคด ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ขนาดต่างๆ โดยรอบทั้ง 4 ด้าน พระธาตุไชยานับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาของจังหวัดสุราษฎร์ธานี สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0 7743 1090, 0 7743 1402, 08 6591 0979

วันเปิดทำการ: วันจันทร์ - วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 16.00
ข้อมูลการติดต่อ ตำบลเวียง อำเภอไชยา สุราษฎร์ธานี
                              Tel. 0 7743 1090, 0 7743 1402







เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)

        อยู่ในบริเวณเดียวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน  ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 90 กิโลเมตร เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์  สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร  บริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ และสวนสวยงาม ภูเขาหินปูนที่อยู่ในเขื่อนมีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตาสวยงามตามธรรมชาติ  ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายเหมาะจะมาเที่ยวพักผ่อน
 
       ในบริเวณเขื่อนรัชชประภาจะมีที่พักของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกไว้บริการนักท่องเที่ยว  ได้แก่ หน่วยอุทยาน ขส.2 มีบ้านพัก 2 หลัง พักได้ 30 คน  แพพักที่หน่วยฯ นางไพร มี 6 หลัง พักได้ 50 คน  แพพักที่หน่วยฯ โตนเตย มี 7 หลัง พักได้ 10-18 คน แพพักที่หน่วยฯ ไกรสร มี 10 หลัง ราคาที่พักรวมค่าอาหารคนละ 500 บาท  โดยขึ้นเรือที่ท่าริมแก่ง  ค่าเช่าเรือหางยาวสำหรับเดินทางไปยังแพต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้ไกล แพนางไพร ราคา 1,200-2,000 บาท แพโตนเตยและแพไกรสรราคา 1,700 บาท ผู้ที่ประสงค์จะไปพักควรติดต่อที่พักล่วงหน้า โทร. 0 7729 9318-9

นอกจากนั้นแพต่าง ๆ ยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ที่หน่วยพิทักษ์นางไพร โตนเตย และไกรสร มีเรือแคนูให้เช่า ราคา 200 บาท/วัน โดยเฉพาะที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส. 4 (โตนเตย) จะมีถ้ำให้นักท่องเที่ยวได้ผจญภัยตื่นเต้น คือ ถ้ำน้ำทะลุ  ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ 6 กิโลเมตร โดยทางเท้า เป็นถ้ำใหญ่ที่มีธารน้ำไหล มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม การเดินเที่ยวถ้ำค่อนข้างลำบากจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง

สำหรับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ก็มีที่พักและกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจบริการนักท่องเที่ยว เช่น สนามกอล์ฟมาตรฐาน 18 หลุม หรือจะนั่งเรือชมบรรยากาศของทะเลสาบเหนือเขื่อน   สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 7724 2560 ต่อ 2512 สำหรับบ้านพักมีบริการนักท่องเที่ยว  จำนวน 200 ห้อง ราคา 800–4,500 บาท/คืน สอบถามรายละเอียด โทร. 0 7724 2560-1  ต่อ 5008 ในวันและเวลาราชการ

การเดินทาง จากอำเภอเมือง ไปตามทางหลวงหมายเลข 401 แยกเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส.2 (เชี่ยวหลาน) ตรงหลักกิโลเมตรที่ 60 ระยะทาง 14 กิโลเมตร

วันเปิดทำการ: วันจันทร์ - วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ: 09.00 - 16.00
ข้อมูลการติดต่อ ทางหลวง 401 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน  สุราษฎร์ธานี
                              Tel. 0 7724 2560 ต่อ 2512




 

สถานีพัฒนาและส่งเสริมอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาท่าเพชร

      สถานีพัฒนาฯ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง มีเนื้อที่ 2,906 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเล 210 เมตร ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ.2508  โดยใช้ชื่อวนอุทยานเขาท่าเพชร ต่อมากองอนุรักษ์สัตว์ป่าได้ประกาศจัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเ เมื่อ พ.ศ. 2519 ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาท่าเพชร ภายในสถานีพัฒนาฯ เป็นป่าแบบป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ มีไม้ตะเคียนทราย ไม้คอแลน กระบก หวายแดง รอบบริเวณร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย และยังสามารถพบสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสถานี อาทิ กระจง หมูป่า นกปรอด นกกระจิบกินปลี นกกระจิบเล็ก  บนยอดเขาสามารถชมทิวทัศน์รอบตัวเมืองสุราษฎร์ได้โดยรอบ และเป็นที่ตั้งของ พระธาตุศรีสุราษฎร์ในพระบรมราชูปถัมภ์  สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2500 นับเป็นปูชนียสถานองค์แรกของชาวบ้านดอน  ต่อมาพระธาตุชำรุดมีรอยร้าวที่ฐาน  พระธาตุจึงถูกรื้อแล้วสร้างขึ้นใหม่เป็นทรงสูงเรียวลักษณะคล้ายลำเทียน นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
    
       ภายในสถานีพัฒนาฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 800 เมตร มีป้ายสื่อความหมาย สามารถเดินศึกษาธรรมชาติด้วยตนเอง  นอกจากนั้นยังมีที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว แต่ต้องนำเต็นท์มาเอง  โดยทำหนังสือถึงหัวหน้าสถานีพัฒนาและส่งเสริมอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาท่าเพชร  ตู้ ปณ. 29 อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000 

การเดินทาง ห่างจากตัวเมือง 6 กิโลเมตร อยู่บนเส้นทางสายสุราษฎร์ธานี-บ้านนาสาร จากถนนใหญ่มีทางแยกด้านซ้ายมือ สู่ที่ทำการอีก 1.5  กิโลเมตร

วันเปิดทำการ: วันจันทร์ - วันศุกร์
เวลาเปิดทำการ: 09.00 - 16.00
ข้อมูลการติดต่อ ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี









ประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม สุราษฎร์ธานี

พิพิธภัณฑ์ปลาหิน
เกิดจากแรงบันดาลใจของนายกิตติ สินอุดม อดีตไต้ก๋งเรือ ที่นำก้อนหินมาแกะสลักเป็นปลาชนิดต่าง ๆ และจัดอย่างเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะของท้องทะเล
      การเดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช) ผ่านอำเภอกาญจดิษฐ์ ถึงสามแยกบ้านในให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 4042 (บ้านใน-ท่าเรือเฟอร์รี่) ผ่านที่ทำการอำเภอดอนสัก ไปตามเส้นทางไปยังท่าเรือเฟอรร์รี่ พิพิธภัณฑ์ปลาหินตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 7737 1197 เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท

วันเปิดทำการ: วันจันทร์ - วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 00.00





พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติไชยา
       ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ประเภทประวัติศาสตร์และโบราณคดี อาคารหลังแรกด้านหน้าจัดแสดงประติมากรรมศิลาและสำริดที่ค้นพบในเมืองไชยาเก่า ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ส่วนอาคารที่สอง เป็นที่จัดแสดงหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยทวาราวดี ศรีวิชัย ลพบุรี สุโขทัย อยุธยา นอกจากนี้ยังจัดแสดงงานประณีตศิลป์ต่าง ๆ อีกมากมาย

เปิดให้เข้าชม เวลา 08.00-16.00 น. ปิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันนักขัตฤกษ์  ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 7743 1066 โทรสาร 0 7743 1066

วันเปิดทำการ: วันพุธ - วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 16.00
ข้อมูลการติดต่อ   อำเภอไชยา สุราษฎร์ธานี
                               Tel. 0 7743 1066  



วัดหลง

      ตั้งอยู่ที่บ้านวัดหลง อยู่ติดกับวัดรัตนาราม เป็นวัดเก่าแก่ ไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด สันนิษฐานว่าเจดีย์ของวัดนี้สร้างสมัยเดียวกับเจดีย์วัดพระบรมธาตุไชยา คือระหว่างพุทธศตวรรษที่ 14-15 เป็นเจดีย์ที่ทิ้งร้างมานานจนชำรุดเหลือแต่ซากอิฐและฐานราก กองโบราณคดี กรมศิลปากรได้ขุดแต่งบูรณะปฏิสังขรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2524-2527 ทำให้สภาพของรูปทรงเจดีย์ชัดเจนขึ้น

วันเปิดทำการ: วันจันทร์ - วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00
ข้อมูลการติดต่อ ตำบลตลาดไชยา อำเภอไชยา สุราษฎร์ธานี

วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์
      อยู่อำเภอดอนสัก ห่างจากชุมชนอำเภอดอนสัก 1 กิโลเมตร ตามเส้นทางสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช (ทางหลวงหมายเลข 401) พระครูสุวรรณประดิษฐ์การ หรือหลวงพ่อจ้อย เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคใต้เป็นผู้บุกเบิกสร้างขึ้น และมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2536 แต่ยังคงอยู่ในโลงแก้วภายในอุโบสถ  บนยอดเขายังเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้มาจากวัดพระเกียรติ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ รถสามารถขึ้นถึงบนยอดเขาได้

วันเปิดทำการ: วันจันทร์ - วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 16.00
ข้อมูลการติดต่อ  ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก สุราษฎร์ธานี








วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จังหวัดสงขลา

นกน้ำเพลินตา สมิหลาเพลินใจ เมืองใหญ่สองทะเล เสน่ห์สะพานป๋า ศูนย์การค้าแดนใต้

        จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย เป็นเมืองท่าและเมืองชายทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นเมืองที่มีอารยธรรมเจริญรุ่งเรืองมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ จึงมีแหล่งโบราณสถานและโบราณวัตถุมากมาย อีกทั้งยังมีมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นจากบรรพบุรุษดั้งเดิม ทั้งขนบธรรมเนียม ประเพณี ภาษา และการละเล่นพื้นเมืองต่างๆ ที่น่าสนใจและน่าศึกษามากมายนอกจากนี้สงขลายังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งชายทะเล ทะเลสาบ ป่าไม้ น้ำตก และมีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ทั้งบนบกและในน้ำ มีอำเภอหาดใหญ่เป็นศูนย์กลางการค้าและการคมนาคม เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติแห่งสำคัญของภูมิภาคและของประเทศ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย มาเยี่ยมเยือนและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปี

       จังหวัดสงขลามีเนื้อที่ประมาณ 7,393 ตารางกิโลเมตร หรือ 4,620,625 ไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 26 ของประเทศ ลักษณะพื้นที่ทางทิศเหนือของจังหวัดส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ทางทิศตะวันออกเป็นที่ราบริมทะเล ส่วนทางทิศใต้และทิศตะวันตกเป็นเขตภูเขาและที่ราบสูง โดยมีเทือกเขาสันกาลาคีรีเป็นพรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่างสงขลาและรัฐเคดาห์ สหพันธรัฐมาเลเซียเมืองสงขลานี้เดิมมีชื่อที่คนไทยใช้เรียกกันว่า "เมืองสทิง” สันนิษฐานว่าชื่อเมือง “สงขลา” น่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า “สิงหลา” ที่แปลว่าเมืองสิงห์ อันเป็นชื่อที่พ่อค้าชาวเปอร์เซียอินเดียใช้เรียกกันในอดีต เนื่องจากได้แล่นเรือผ่านเข้ามาในทะเลสาบสงขลา เห็นเกาะหนู-เกาะแมวจากระยะไกลๆ มีลักษณะคล้ายสิงห์ 2 ตัวหมอบเฝ้าปากทางเข้าเมือง จึงตั้งชื่อเมืองตามนั้น

       อีกข้อสันนิษฐานหนึ่งกล่าวว่า คำว่า “สงขลา” นั้นมาจากคำว่า “สิงขร” ที่แปลว่า “ภูเขา” เนื่องจากเมืองสงขลาในยุคดั้งเดิมตั้งอยู่เชิงเขา เมื่อพ่อค้าชาวมลายูเดินทางเข้ามาค้าขาย ได้ออกเสียงเพี้ยนเป็น “เซ็งคอรา” และต่อมาเมื่อชาวตะวันตกเข้ามา ก็ออกเสียงชื่อเมืองเพี้ยนเป็น “ซิงกอรา” (Singora) จากนั้นจึงค่อยๆ เพี้ยนเป็นคำว่า “สงขลา” ดังปัจจุบันเมืองสงขลาเป็นชุมชนขนาดใหญ่มาตั้งแต่ในอดีต ตัวเมืองเดิมตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลสาบสงขลา ในบริเวณที่เป็นอำเภอสทิงพระในปัจจุบัน เป็นศูนย์กลางการปกครองของดินแดนรอบๆ ทะเลสาบสงขลาในช่วงระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12–19 มีรูปแบบวัฒนธรรมแบบศรีวิชัย มีการขุดคลองเชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองกับทะเลสาบสงขลาและอ่าวไทย และทำการติดต่อค้าขายกับพ่อค้าชาวจีนในสมัยราชวงศ์ถัง (ประมาณ พ.ศ. 1201–1450) ต่อมาอาณาจักรศรีวิชัยได้เริ่มเสื่อมอำนาจลงเพราะการรุกรานจากชนชาติต่างๆ ทั้งพวกโจฬะ จากอาณาจักรตันเชอร์ทางภาคใต้ของอินเดีย พวกโจรสลัดมาเลย์ และชาวมุสลิมมลายู ที่อพยพมาจากหมู่เกาะต่างๆ ในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีประเทศอังกฤษสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ชุมชนเมืองสทิงพระเก่าก็ได้อพยพโยกย้ายไปตั้งรกรากอยู่ในหลายพื้นที่ของดินแดนแถบนี้ เกิดเป็นเมืองต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาหลายร้อยปีในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 แห่งกรุงศรีอยุธยา เมืองสงขลาเป็นหนึ่งในเมืองประเทศราชจำนวน 16 หัวเมือง และในสมัยกรุงธนบุรี เมืองสงขลาเริ่มมีบทบาทสำคัญขึ้นอีกครั้ง

        เนื่องจากการค้ากับประเทศจีนเจริญขึ้น มีคนจีนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองสงขลาเป็นจำนวนมาก ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงแต่งตั้งหัวหน้าคนจีนขึ้นเป็นเจ้าเมือง เมืองสงขลาจึงถูกปกครองโดยเจ้าเมืองในตระกูล ณ สงขลา ติดต่อกันมาเป็นเวลานานถึง 126 ปี เจ้าเมืองชาวจีนเหล่านี้ได้วางพื้นฐานความเจริญด้านต่างๆ และพัฒนาเมืองสงขลาจากที่เป็นเมืองบริวารเล็กๆ ของนครศรีธรรมราช เจริญเติบโตจนกระทั่งกลายเป็นเมืองศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และเป็นที่ตั้งที่ว่าการมณฑลนครศรีธรรมราชระหว่างปี พ.ศ. 2439–2476 ทำการค้าขายกับกรุงเทพมหานคร สิงคโปร์ และเมืองอื่นๆ อย่างเจริญรุ่งเรือง และมีการก่อสร้างศิลปวัตถุและศาสนสถานไว้มากมายบริเวณสองฝั่งปากทะเลสาบสงขลาปัจจุบันจังหวัดสงขลาแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 16 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ อำเภอสิงหนคร อำเภอควนเนียง อำเภอรัตภูมิ อำเภอบางกล่ำ อำเภอหาดใหญ่ อำเภอนาหม่อม อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอสะเดา และอำเภอคลองหอยโข่ง
ทิปส์ท่องเที่ยว
  • ตลาดน้ำคลองแห มีทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลาเย็นถึงกลางคืน